เรียกร้องให้เนปาลปฏิบัติตามคำตัดสินของศาลกรณีการบังคับบุคคลให้สูญหายโดยผิดกฎหมาย

เรียกร้องให้เนปาลปฏิบัติตามคำตัดสินของศาลกรณีการบังคับบุคคลให้สูญหายโดยผิดกฎหมาย

สำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติประจำเนปาล ( OHCHR -Nepal) เรียกร้องให้รัฐบาลของประเทศในเอเชียดำเนินการอย่างรวดเร็วตามคำตัดสินของศาลฎีกาในปี 2550 ซึ่งกำหนดให้รัฐต้องออกกฎหมายเพื่อเอาผิดการบังคับบุคคลให้สูญหายคำสั่งศาลสูงสุด หากนำไปใช้ จะเป็นไปตามอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการถูกบังคับสูญหาย OHCHR กล่าวก่อนวันผู้สูญหายสากลซึ่งจะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้

นอกจากนี้ยังจะจัดตั้งคณะกรรมการสอบสวนระดับสูงเกี่ยวกับการหายตัวไปตามเกณฑ์สากล

ว่าด้วยคณะกรรมการสอบสวนดังกล่าว กำหนดให้มีการสอบสวนและดำเนินคดีกับบุคคลที่รับผิดชอบต่อการหายตัวไป และจัดให้มีการชดเชยและบรรเทาทุกข์ที่เพียงพอสำหรับเหยื่อและครอบครัวของพวกเขา

Anthony Cardon เจ้าหน้าที่ OHCHR-Nepal กล่าวว่า “วันนี้เตือนใจฉันถึงคนที่อยู่บ้านรอฟังชะตากรรมของคนรักและต้องทนทุกข์ต่อไปจนกว่าการบรรเทาทุกข์นี้จะมาถึง” 

สิทธิของพวกเขาและผู้สูญหายได้รับการประกันอย่างเต็มที่โดยกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ และการเคารพและปกป้องสิทธิเหล่านี้ควรได้รับการจัดลำดับความสำคัญในสังคมใด ๆ” เขากล่าวเสริมตั้งแต่ปี 2548 สำนักงานสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติในเนปาลได้พบเห็นความเจ็บปวดและความโกรธของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อความขัดแย้งอย่างใกล้ชิด ตลอดจนผลที่ตามมาต่อสังคมของความล้มเหลวในการจัดตั้งกลไกความยุติธรรมในช่วงเปลี่ยนผ่าน

สำนักงานกล่าวว่ายังคงเชื่อว่าการชี้แจงชะตากรรมของเหยื่อของการบังคับสูญหาย

และการละเมิดกฎหมายสิทธิมนุษยชนและมนุษยธรรมอื่น ๆ ในเนปาลเป็นหัวใจสำคัญของกระบวนการสันติภาพ“วันนี้ ฉันจำได้ว่าในข้อตกลงสันติภาพครั้งประวัติศาสตร์เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2549 ทั้งสองฝ่ายของ CPA 

[ข้อตกลงสันติภาพฉบับสมบูรณ์] เห็นพ้องกันว่าการเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับผู้สูญหายและแจ้งให้ครอบครัวทราบเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก เร็ว ๆ นี้เมื่อสี่ปีที่แล้ว”นายคาร์ดอนกล่าว “การสนับสนุนรัฐบาลเนปาลในการแสวงหาความจริงเกี่ยวกับผู้หญิงและผู้ชายที่เป็นและยังคงตกเป็นเหยื่อของการบังคับให้สูญหายอยู่ในลำดับความสำคัญของ OHCHR-Nepal” เขากล่าว

OHCHR ยังเรียกร้องให้รัฐบาลให้สัตยาบันอนุสัญญาระหว่างประเทศเพื่อการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการสูญหายโดยถูกบังคับ ซึ่งจนถึงขณะนี้มีการลงนามโดย 83 รัฐและให้สัตยาบันโดยอีก 19 รัฐ

credit : jptwitter.com
emanyazilim.com
afuneralinbc.com
saabsunitedhistoricrallyteam.com
canadagooseexpeditionjakker.com
kysttwecom.com
certamenluysmilan.com
quirkyquaintly.com
lifeserialblog.com
laserhairremoval911.com